0039.jpg

ที่คนปล่อยเช่าคอนโดทุกคนต้องเสีย ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

โดยการยื่นภาษีนั้น ให้ยื่นที่สำนักงานเขตพื้นที่ที่คอนโดของเราตั้งอยู่ การยื่นให้ยื่นเป็นรายปี และต้องยื่นภายในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: วิธีการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ใช้วิธีการคำนวณดังนี้

  1. วิธีเงินได้สุทธิ

วิธีเงินได้สุทธินี้ จะคำนวณจากรายได้ค่าเช่าและค่าเฟอร์นิเจอร์รวมกัน (เงินทั้งหมดที่ได้รับ) หลังจากนั้นนำมาหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน โดยการปล่อยเช่าคอนโดนั้นสามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายได้ 2 วิธีคือ

  1. วิธีหักค่าใช้จ่ายแบบเหมากรณีให้เช่าคอนโดที่เราเป็นเจ้าของด้วยตัวเอง โดยกฎหมายกำหนดอัตราหักค่าใช้จ่ายไว้ที่ 30% ของยอดรายได้
  2. วิธีหักค่าใช้จ่ายตามจำเป็นและสมควร (ค่าใช้จ่ายตามจริง)ซึ่งวิธีการหักค่าใช้จ่ายแบบนี้เหมาะสำหรับคนที่จัดเก็บเอกสารไว้เรียบร้อยและคิดว่าตัวเองมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า 30% ของรายได้ ซึ่งวิธีนี้สามารถนำภาษีโรงเรือนมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ด้วย
  3. วิธีเงินได้พึงประเมิน

นำรายได้ค่าเช่าทั้งหมดคูณด้วย 0.5% และเราจะเลือกใช้ในกรณีที่มีรายได้มากกว่า 1 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น (รายได้จากการให้เช่าคอนโดและรายได้อื่นที่ไม่ใช่เงินเดือนด้วย)

หลังจากคำนวณตาม 2 วิธี ให้เปรียบเทียบวิธีที่ได้ภาษีมากกว่า การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถยื่นได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา หรือ ยื่นแบบผ่านอินเตอร์เน็ต โดยต้องยื่นรายการดังต่อไปนี้

  1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี (มกราคม – มิถุนายน)เนื่องจากรายได้จากการให้เช่าคอนโดนั้นถือเป็นรายได้ประเภทที่ 5 ซึ่งผู้มีรายได้มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 94) ภายในเดือนกันยายนของทุกปี (ร่วมกับรายได้ประเภทที่ 5-8 อื่นๆ ถ้ามี)
  2. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสิ้นปี (มกราคม – ธันวาคม)โดยมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90) ภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป

หมายเหตุ :

1) กรณีที่สัญญาระบุไว้ว่า ผู้เช่าเป็นผู้ออกค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้แทนผู้ให้เช่า ต้องนำมารวมเป็นรายได้ในการคำนวณภาษีด้วย
2) กรณีที่มีค่าเช่าในส่วนที่เป็น เฟอร์นิเจอร์เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี อาจจะต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

 

สาระสำคัญร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่

 

  1. แก้ไขพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 และพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508
  2. ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีที่ดินได้แก่ บุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของที่ดินต่างๆหรือสิ่งปลูกสร้าง ที่เป็นผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐ
  3. หน่วยงานที่จัดเก็บภาษีที่ดินได้แก่ เทศบาลตำบล เทศบาลเมือง เทศบาลนคร องค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา โดยรายได้ภาษีที่จัดเก็บได้จะเป็นของ อปท. ที่ทำหน้าที่จัดเก็บ
  4. ทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีที่ดินได้แก่ ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และห้องชุด
  5. ฐานภาษีได้แก่ มูลค่าทั้งหมดของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยคำนวณมาจากราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ตามราคาประเมินทุนทรัพย์แห่งประมวลกฎหมายที่ดินสามารถเข้าไปดูราคาประเมินได้ที่ เว็บไซต์ประเมินราคาที่ดิน
  6. อัตราภาษีที่ดินที่กำหนดในพระราชบัญญัติโดยอัตราสูงสุดที่จะจัดเก็บภาษีของผู้เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยจะจัดแบ่งอัตราภาษีดังกล่าวออกเป็น 3 กลุ่ม ตามลักษณะการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ดังนี้

– เกษตรกรรม จัดเก็บภาษีที่ดินได้ในอัตราสูงสุดไม่เกิน 0.2%

– ที่พักอาศัยที่เกิน 50 ล้าน ให้จัดเก็บภาษีที่ดินได้ในอัตราสูงสุดไม่เกิน 0.5%

– พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม เป็นต้น) ให้จัดเก็บภาษีที่ดินได้ในอัตราสูงสุดไม่เกิน 2%

– ที่ดินที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าไม่ได้ทำประโยชน์ ให้จัดเก็บภาษีได้ในอัตราสูงสุดไม่เกิน 5%

  1. ยกเว้นภาษีให้แก่ทรัพย์สินบางประเภทเช่น สาธารณสมบัติ ทรัพย์สินของรัฐที่ไม่ได้ใช้หาผลประโยชน์ ทรัพย์สินของสถานทูต ทรัพย์สินของสภากาชาดไทย ทรัพย์ส่วนกลางของอาคารชุดและที่ดินสาธารณูปโภคของโครงการจัดสรรที่มิได้ใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ทรัพย์สินของเอกชนที่ได้ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ และบ้านพักอาศัยหลักในส่วนที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท เป็นต้น
  2. อัตราภาษีที่ใช้จัดเก็บจริงจะกำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา โดยกำหนดเป็นอัตราก้าวหน้าเพิ่มขึ้นตามมูลค่าของฐานภาษีดังนี้

– เกษตรกรรม เริ่มตั้งแต่ 0-0.1% ของฐานภาษี

– ที่พักอาศัยหลัก ส่วน 50 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่ 0.05-0.1% และที่พักอาศัยหลังอื่น ตั้งแต่ 0.03-0.3% ของฐานภาษี

– ประเภทอื่น ๆ ตั้งแต่ 0.3-1.5% ของฐานภาษี

– ที่ดินว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพที่ดิน จะจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นทุก 3 ปี ตั้งแต่ 1-3% ของฐานภาษี

 

การยกเว้นและบรรเทาภาระภาษี

 

การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะมีการบรรเทาภาระให้กับเจ้าของบ้านพักอาศัยหลักที่ได้มาจาก การรับมรดก ผู้ประกอบกิจการอสังหาริมทรัพย์ สถาบันการเงินที่มีอสังหาริมทรัพย์รอการขายที่ได้มาจากการชำระหนี้ และกิจการสาธารณะ ดังนี้

– จัดเก็บภาษีในอัตรา 0.05% ของฐานภาษี ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์รอการขายที่ได้มาจากการชำระหนี้ของสถาบันการเงิน เป็นระยะเวลา 5 ปี

– ในกรณีที่เจ้าของบ้านพักอาศัยหลักได้รับกรรมสิทธิ์บ้านจากกองมรดกก่อนที่กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะมีการบรรเทาภาษีให้ โดยการลดภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 50% ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย

– ให้จัดเก็บภาษีในอัตรา 0.05% ของฐานภาษี สำหรับที่ดินที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อจัดทำเป็นโครงการที่พักอาศัยเพื่อขาย ที่นิติบุคคลที่ประกอบกิจการอสังหาริมทรัพย์เป็นเจ้าของเป็นเวลา 3 ปี นับตั้งแต่เจ้าของที่ดินได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน

– ให้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีเป็นเวลา 1 ปี ให้กับที่ดินที่อยู่ระหว่างการปลูกสร้างบ้านที่เจ้าของใช้เป็นบ้านของตนเอง

– ให้ลดภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่เกิน 75% ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสียสำหรับกิจการสาธารณะ

Contact Us

Contact info

Minya Prasertsuk
(Property Consultant)


 Tel : 083-015-7404

 Line ID : minya1

 Head Office : 898/29 Prasertmanukit Rd.,Klongkum , Buengkum Bangkok

 Office : Royal City Avenue Rama a Rd., Huaykwang Bangkok

™ช้อมูลเจ้าของทรัพย์”

 

เพื่อเก็บข้อมูลติดต่อเจ้าของทรัพย์
แต่ไม่ให้ข้อมูลนี้แสดงหน้าบ้าน
ให้ทางบริษัทเห็นคนเดียวเท่านั้น

Style switcher RESET
Color scheme